ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่แฝก-แม่งัดสมบูรณ์ชล ชี้แจงเขื่อนแม่งัดฯ สามารถรับน้ำได้อีก 59 ล้าน ลบ.ม. จากความจุเก็บกักสูงสุด ที่ 293 ล้าน ลบ.ม. ความจุเก็บกักปกติ 263 ล้าน ลบ.ม. โดย ระบายน้ำออกเขื่อนแบบขั้นบันได 15-20 ลบ.ม.ต่อวินาที ทั้งนี้การระบายน้ำจะพิจารณาไม่ให้กระทบกับพื้นที่ด้านท้ายเขื่อนและลำน้ำปิง
วันที่ 25 กันยายน 2568 นายอัธยา อรรณพเพ็ชร ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่แฝก-แม่งัดสมบูรณ์ชล กล่าวถึงความพร้อมในการรับมือพายุ 2 ลูก (พายุบัวลอย และพายุรากาซา) ที่กรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่าจะส่งผลกระทบกับเชียงใหม่ ว่า เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล เมื่อวานนี้(24 ก.ย. 2568) มีฝนตกที่เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชลประมาณ 67.60 มม. ที่ อ.พร้าว ประมาณ 64 มม. ทำให้ช่วงเช้าวันนี้ 25 ก.ย.68) มีปริมาณน้ำเก็บกักอยู่ที่ 234 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 88.37 เปอร์เซ็นต์ มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อน 4.5 ล้าน ลบ.ม. โดยที่เขื่อนฯ ระบายออก ปริมาณ 1.1 ล้าน ลบ.ม. โดยฝนที่ตกตั้งแต่เก็บสถิติมา ณ วันนี้อยู่ที่ 1,352.20 มม.
ผู้อำนวยการฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า การบริหารจัดการน้ำ ขณะนี้ คือพายุ “รากาซา” ที่กำลังสลายตัวและกลายเป็นร่องความกดอากาศต่ำกำลังแรง ที่จะมีผลกระทบกับทางเขื่อนแม่งัดหรือพื้นที่เชียงใหม่และโดยรอบ ซึ่งเขื่อนแม่งัดฯ ได้มีการระบายน้ำเพื่อรองรับสถานการณ์ โดยเพิ่มการระบายน้ำจาก 3 ลบ.ม.ต่อวินาที เป็น 10 ลบ.ม.ต่อวินาที ตั้งแต่วันที่ 22 ก.ย. 68 เป็นต้นมา เพื่อความไม่ประมาท การระบายน้ำจากเขื่อนจะเปิดเป็นขั้นบันได โดยระบายขยับเป็น 15 - 20 ลบ.ม.ต่อวินาที จะไม่เกินกว่านี้ ขณะนี้เขื่อนแม่งัดฯ มีพื้นที่รองรับน้ำได้อีก 59 ล้าน ลบ.ม.
และกล่าวอีกว่า จากสถานการณ์พายุวิภา ที่ผ่านมา มีปริมาณน้ำเข้าเขื่อน 50 - 60 ล้าน ลบ.ม. ส่วนพายุคาจิกิ น้ำเข้าเขื่อน 14 ล้าน ลบ.ม. และพายุหน่องฟ้า เข้ามาอีก 14 ล้าน ลบ.ม. หากพายุ “รากาซา” เข้ามาเต็ม ก็มีพื้นที่รองรับได้อีก 59 ล้าน ลบ.ม. ส่วนพายุบัวลอยกำลังติดตามสถานการณ์อยู่ทุกชั่วโมง ทั้งนี้ เขื่อนแม่งัดฯ ได้เตรียมพื้นที่กักเก็บรองรับน้ำไว้แล้ว
ด้านการเตรียมความพร้อมของโครงการฯ ได้เตรียมเครื่องจักร ครื่องมือ เช่น เครื่องสูบน้ำ รถไถ JCB และกระสอบทรายที่บรรจุทรายพร้อมใช้ สามารถนำไปช่วยเหลือชาวบ้านได้ทันที" ผู้อำนวยการฯ กล่าว